คำถามทั่วไป Harmonic Elliott Wave

การเป็นสมาชิก

คุณรับชำระค่าบริการแบบไหนบ้าง?

เรารับชำระ Bitcoin , Bitcoin Cash , Dai , Ethereum , Litecoin และ USD Coin และการโอนเงินผ่านธนาคาร.

คุณมีกลุ่ม Community สำหรับพูดคุยหรือไม่?

ใช่เรามีกลุ่มไว้ให้คุณแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ผ่านทาง Facebook.

ฉันสามารถขอเงินคืนได้หรือไม่?

แน่นอนว่าคุณได้ตัดสินใจในการใช้บริการแล้ว ดังนั้นเราไม่มีนโยบาการคืนเงินใดๆ.

คุณรับผิดชอบต่อการสูญเสียจากการใช้เครื่องมือ หรือไม่?

แน่นอนว่าคุณเป็นผู้ตัดสินใจการลงทุนเอง เราไม่สามารถรับผิดชอบความเสี่ยงที่เกิดจากการตัดสินใจของคุณได้.

เกี่ยวกับ Partners

คุณรับ Partner ในการสร้างรายได้ด้วยหรือไม่ ?

ใช่ เรารับ โปรดอ่านรายละเอียดจากเมนู ร่วมงานกับเรา.

ฉันจะได้รับผลตอบแทนอย่างไร จากบุคคลที่ฉันอ้างอิง?

คุณจะได้รับ เครดิตในการแลกจำนวนวันคงเหลือเพิ่ม จากแพ็คเกจ ที่เพื่อนคุณสมัคร โดยใช้รหัสตัวแทนของคุณ.

หากฉันไม่ได้เป็นสมาชิกขั้นต่ำ HAP2 หรือหมดอายุระดับ HAP2 ไปแล้ว ฉันยังสามารถเป็น Partner ต่อได้หรือไม่?

คุณต้องเป็นสมาชิกกับเราในการซื้อแพ็คเกจ HAP2 เป็นอย่างต่ำ (หากคุณไม่ได้เป็นสมาชิกที่ขั้นต่ำ HAP2 เราแล้ว หรือหมดอายุการเป็นสมาชิกไปแล้ว คุณไม่สามารถเป็น Partner กับเราต่อได้)

ด้านการใช้งาน

Indcator รองรับทุก timeframe หรือไม่?

แน่นอนมันทำงานกับทุก timeframe แต่จะดีหากคุณใช้ระดับ timeframe มากกว่า1 ช.ม ขึ้นไป และการใช้งานแต่ล่ะ timeframe ขึ้นอยู่กับการปรับแต่งเส้น Zigzag ที่ให้ระดับราคาวิ่งใกล้เคียงกับเส้นมากที่สุด.

ฉันสามารถตั้งการแจ้งเตือนเมื่อพบ Pattern ได้หรือไม่?

แน่นอน มันสามารถตั้งการแจ้งเตือนได้ *โปรดทราบว่าคุณสมบัตินี้ไม่สามารถใช้ได้กับแผนราคา HAP1 แต่สามารถใช้ได้กับแผนที่สูงกว่า HAP1

เครื่องมือ Indicator HAP ของคุณ repaint หรือไม่ ?

มี แต่น้อยมากที่จะเกิด เนื่องด้วยอัตราส่วนของ Fibo ทำอัตราส่วนที่เกือบจะพอดี จึงทำให้เกิด repaint ในบางครั้ง แต่เราได้ทดสอบย้อนหลังแล้ว มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก .

เหตุใดระบบจึงไม่แสดงจุดซื้อขาย และ ป้ายPattern ?

ก็เพราะ ในช่วงเวลาดังกล่าวระบบยังตรวจจับไม่พบโครงสร้างใดๆเลย มันจึงไม่แสดงผลใดๆ แต่จะแสดงเส้น Zigzag ให้เห็นเพียงเท่านั้น.

การตรวจจับ Pattern เปลี่ยนแปลงรูปแบบบ่อยแค่ไหน ?

อย่างที่อธิบายไปในหน้าบทเรียน การเปลี่ยนแปลงของ Pattern บ่อย หรือ ไม่บ่อย ขึ้นอยู่กับการกำหนด ปริมาณการ Zigzag เพื่อใช้ในการวัดระดับ Fibo ในการเกิด 1 Pattern คุณสามารถปรับความสมดุลได้จากในหน้าตั้งค่า Zigzag Length และ การกำหนด Zigzag Frequency .

เหตุใด ป้าย Scan จึงพบหลาย Pattern ?

นี้เป็นคำถามที่ดี มันเป็นการตรวจพบระดับของ Fibo ที่ใกล้เคียงกับ Pattern อื่นๆ หากตรวจพบได้มากยิ่งเป็นเรื่องที่ดีในการตัดสินใจว่าโครงสร้างที่ตรวจพบนั้น มีโอกาสสูงที่จะเป็นไปทิศทางที่กำหนด .

คุณมีรูปแบบ Harmonic Pattern กี่แบบ ?

เรามีให้คุณใช้งานมากถึง 30+ Pattern ซึ่งมากพอที่จะให้คุณใช้ได้อย่างเต็มที่ ในขณะบางผู้ให้บริการมีเพียง 5-10 Pattern เท่านั้น และจะเพิ่มให้เรื่อยๆหากเราค้นพบ.

คุณสามารถเพิ่มฟีเจอร์อื่นๆเข้าไปในระบบได้อีกไหม?

แน่นอน เราสามารถเพิ่มให้คุณได้ตามความต้องการ โดยแจ้งไปที่อีเมล์ของเรา แต่ต้องมีการพิจารณาถึงความเหมาะสมเมื่อได้ข้อสรุปเราจะตอบกลับหาคุณทันที.

คุณมีแผนจะพัฒนาเครื่องมืออื่นๆ อีกไหม?

แน่นอน เรามีการเรียนรู้และพัฒนาอย่างไม่หยุดยั่งตามความสามารถของเรา.

แต่ละ Level (สื่อถึงอะไร) ?

มันจะช่วยบ่งบอกถึงขนาดของ Pattern ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละครั้ง เช่น Lavel 1 เวลาเกิด Pattern โดยปกติจะมีเล็กสุด และ Lavel 2 ก็จะมีขนาดใหญ่กว่า Lavel ที่1 และ3,4ตามลำดับ โดยแต่ละ Lavel จะแยกกันทำงานเพื่อสแกนหา Pattern ล่าสุดของตัวมันเอง.

แต่ละ Level (มีความสำคัญอย่างไร) ?

มันจะช่วยในการตรวจจับ Pattern จากการเคลื่อนตัวของราคาได้ละเอียดขึ้น ดังนั้นคุณจะไม่พลาดแม้แต่การเคลื่อนตัวเล็กๆ ที่อาจจะมี Pattern แอบหลบซ่อนอยู่ภายในจากการเคลื่อนตัวของราคา.

เมื่อเกิดขึ้นพร้อมๆกันในแต่ละ Lavel แล้วทิศทางต่างกัน เราควรพิจารณา Lavel ไหนดี ?

ต้องบอกก่อนว่า ในแต่ละ Lavel มันจะมีการทำงานที่แยกกันในการสแกนซึ่งมีการทำงานอยู่ทั้งหมด 4 Lavel ร่วมกัน และในแต่ละ Lavel มันจะแสดง Pattern ล่าสุด (ของตัวมันเอง) ดังนั้น เมื่อเกิด Pattern พร้อมๆกันหรือซ้อนกัน เราต้องพิจารณาถึงความเป็นไปได้ กล่าวคือ สมมุติ Lavel 4 เกิด Pattern ขาขึ้น แต่ Lavel 2 เกิด Pattern ขาลง (ที่มีขนาดหรือโครงสร้างที่อาจจะเล็กกว่า Lavel 4) เมื่อเป็นเช่นนี้ เราควรมอง Lavel 4 เป็นหลักก่อน เพราะมันคือ Lavel ที่(อาจ)มีขนาดใหญ่กว่า Lavel 1 เพราะเราสามารถวิเคราะห์ได้ว่า Lavel4 เป็นโครงสร้างของภาพรวมใหญ่มุมมองใหญ่และไม่เปลี่ยนทิศทางบ่อยเหมือน Lavel1 หรือ 2 ดังนั้น เวลาจะมองหรือวิเคราะห์ ให้มองจากเทรนใหญ่เป็นอันดับแรก และค่อยไปดู Lavel 3,2,1 เป็นลำดับ หากทั้ง3 Lavelส่วนใหญ่อยู่ในทิศทางเดียวกันกับ Lavel ใหญ่ๆ ก็ให้พิจารณาความเป็นได้ว่าอาจจะเป็นไปตามทิศทางนั้นๆ หรือสมมุติ อาจจะวิเคราะห์ได้ว่า เมื่อเกิด Pattern ขาขึ้น ใน Lavel 3 จากนั้นผ่านไปสักระยะเกิด Pattern ขาลงใน Lavel 1 ก็อาจพิจารณาได้ว่า Lavel 3 ที่เกิดขาขึ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว อาจจะมีการย่อตัวลงมาสักเล็กน้อยเพื่อไปต่อก็เป็นไปได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถพิจารณาว่า Risk/Reward ใด ที่ดีที่สุด ตามที่ indicator บอกอยู่ท้ายข้อความ Targetก็ได้ ส่วน Risk/Reward คืออะไร ส่วนนี้คุณอาจจะต้องศึกษาด้วยตัวเอง มีคำอธิบายส่วนนี้อยู่หลายแหล่งสืบค้นเช่น Youtube มันขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การซื้อขายของแต่ละบุคคลจริงๆ ค่อนข้างมีความยืดหยุ่นในการอธิบายคำตอบนี้.

ถ้าราคา ไม่ถึงจุด Entry ต่างกันนิดหน่อย เราสามารถพิจารณาเข้า Order ได้หรือไม่ ?

ถ้าเกิด Pattern แล้ว แต่ราคาไม่ถึง Entry เล็กน้อย ก็สามารถเข้าได้ครับ แต่ระบบแค่แนะนำว่าให้รอเข้าบริเวณจุด Entry น่าจะดีกว่า นั้นถึงความคุ้มค่าต่อความเสี่ยง เมื่อเทียบกับ SL เพียงเท่านั้นครับ ซึ่งสามารถพิจารณาได้ตามความเหมาะสม มันขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของเรา.