HAP - Elliot wave

เริ่มเรียนรู้กับเราฟรี

HAP - Harmonic Auto-Detect Pattern.

นี้คือข้อมูลการเรียนรู้ของเรา คุณสามารถศึกษาเกี่ยวกับ Harmonic Pattern และวิธีการใช้เครื่องมือ ได้ที่นี้ โปรดทราบว่าข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา คุณสามารถแวะเข้ามาเยี่ยมชมได้ตลอดเวลา.

ทำไม Elliot Wave ถึงน่าสนใจ?

ทำไม Elliot Wave ถึงน่าสนใจ? ทำไมทฤษฎี Elliot Wave ถึงน่าสนใจ? ทฤษฎี Elliot Wave พิสูจน์ว่าการแกว่งของราคาขึ้นและลงที่เกิดจากจิตวิทยาส่วนรวมนั้นสะท้อนถึงรูปแบบที่ซ้ำซากบ่อยครั้งอยู่เสมอ เอลเลียตสังเกตว่าตลาดการเงินทั้งหมดเคลื่อนไหวในรูปแบบซิกแซก ซึ่งเขาเรียกว่าวัฏจักรคลื่น ด้วยทฤษฎีนี้ เอลเลียตสามารถวิเคราะห์ตลาดในเชิงลึกมากขึ้นด้วยการระบุลักษณะเฉพาะของรูปแบบคลื่น และสามารถคาดการณ์ตลาดโดยละเอียดตามรูปแบบเหล่านี้ นี่คือสิ่งที่ทำให้ทฤษฎี Elliott Wave น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ เนื่องจากมีวิธีการระบุจุดราคาที่แม่นยำซึ่งตลาดมีแนวโน้มที่จะกลับตัว พูดง่ายๆ ก็คือ Elliott มีระบบที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถจับแนวโน้ม ทิศทางการเคลื่อนที่ของราคา ในอนาคตได้ง่ายขึ้น

คำอธิบายความหมายแต่ละค่า

ในบทความนี้จะอธิบายถึงค่าแต่ละตัวจากหน้าตั้งค่าของ อินดิเคเตอร์ (HAP - Auto Elliott wave Pro)

อัตราความสำเร็จที่เราค้นพบในขณะนี้

ชื่อ Pattern และ อัตราความสำเร็จ (%) ร้อยละ

1. Butterfly 85%
2. Bat 83%
3. Triangle 80%
4. Head and Shoulders 79%
5. Triple Top/Bottom 78%
6. Deep Crab 76%
7. Cypher 75%
8. Gartley 72%
9. Alternate Bat 72%
10. Crab 67%
11. Double Top/Bottom 65%
12. Shark 59%
และอื่นๆในไม่ช้า...

วิธีการทดสอบย้อนหลัง

นี้เป็นวิธีในการทดสอบความแม่นยำของ Pattern ที่คุณสามารถทดสอบประสิทธิภาพ Indicator HAP ของเราได้อย่างง่ายดายผ่านแพลตฟอร์ม Tradingview.

เลือกช่วงเวลา

หาช่วงเวลาที่เริ่มต้นที่คุณต้องการ

1. เข้าเว็บ Tradingview แล้วคลิกปุ่ม (Replay)
2. เมื่อขึ้นเส้นสีแดง หาช่วงเวลาที่ต้องการแล้วคลิกที่หน้าจอ
3. ระบบจะลบแท่งเทียนกลังจากช่วงเวลาที่คุณคลิก
4. กด Popup ปุ่ม Play ด้านล่าง
5. ระบบจะเล่นซ้ำ แล้วรอสังเกตุผลจาก Indicator HAP ในการตรวจจับ
โปรดทราบว่า การทดสอบย้อนหลัง คุณต้องเป็นสมาชิกระดับ Pro หรือ Premium ของแพลตฟอร์ม Tradingview เท่านั้น หากเป็นระดับ Free จะไม่สามารถทดสอบย้อนหลังได้

List Harmonic Pattern

นี้คือรายชื่อ Harmonic Pattern ที่ทำงานอยู่ในระบบ HAP - Harmonic-Detect Pattern ในตัว Indicator ของเรา

โดยจะแบ่งเป็น2ส่วนหลักๆ คือ

1. Harmonic Pattern รายชื่อหลัก กับ รานชื่อย่อย

2. Chart Pattern

รายชื่อ PATTERN หลัก คือ รายชื่อที่เป็นต้นแบบโดยมีอัตราเฉลี่ยของ Fibonacci ที่ลงตัวอย่างพอดี

1. AB=CD
2. Dargon
3. SNORM
4. BAT
5. Butterfly
6. WhiteSwan
7. Blackswan
8. Gartley
9. Crab
10. DeepCrab
11. Shark
12. Nenstar
13. Leonardo
14. Cypher
15. Navarro200
16. 121
17. 5-0
18. Wolfe
19. ThreeDriver
20. Partizan
21. BG
22. HENRY-David
23. May-00
24. COL-Poruchik
25. SeaPony
26. TOTAL
27. Contria
28. Exptria

รานชื่อ PATTERN ย่อย คือ รายชื่อที่มีอัตราส่วนของ Fibonacci ที่มีค่าเฉลี่ยที่ใกล้เคียงกับ Fibonacci ต้นแบบ เพื่อหาโครงสร้างล่วงหน้าก่อนจะมาถึงโครงสร้างต้นแบบ โดยส่วนนี้มักจะเกิดขึ้นบ่อยแล้วเกิดความผันผวนทันทีก่อนจะมาถึง Fibonacci ต้นแบบ ซึ่งจะทำงานอยู่ภายใต้ขอบเขตของแต่ละ PATTERN ภายใน Indicator ของเราพร้อมกัน

1. DargonXD
2. SNORM1
3. MaxBat
4. A-Bat
5. Alt-Bat
6. NN-AltBat
7. NN-A-AltBat
8. MaxButterfly
9. Butterfly113
10. A-Butterfly
11. NN-WhiteSwan
12. NNBlackswan
13. NGartley222
14. MexGartley
15. AGartley
16. NN-Gartley
17. Crab2
18. ACrab
19. NN-Crab
20. NN-A-Crab
21. NN-DeepCrab
22. NN-A-DeepCrab
23. AltShark1
24. AltShark2
25. Shark1
26. Shark2
27. AntiNenstar
28. NN-A-Leonardo
29. AntiNewCypher
30. NewCypher
31. A-121
32. A-3Driver
33. A1-Driver
34. Partizan2
35. Partizan2.1
36. Partizan2.2
37. Partizan2.3
38. Partizan2.4
39. BG2
40. BG3
41. BG4
42. BG5
43. BG6
44. BG7
45. BG8
46. 121-BG
47. STRONG HENRY–David
48. DavidVM1
49. DavidVM2
50. TOTAL1
51. TOTAL2
52. TOTAL3
53. TOTAL4
54. NN-TOTAL2
55. NN-TOTAL3
56. NN-TOTAL

รายชื่อย่อยจะเป็นชื่อ ที่ผู้คิดค้นตั้งมาเพื่อให้เพียงแค่จดจำง่ายๆจาก PATTERN ต้นแบบ ดังนั้น ในส่วนรายชื่อย่อยคุณอาจไม่จำเป็นต้องจำ เพียงแค่รู้ไว้ว่า เป็นหนึ่งในโครงสร้างที่มีอัตราส่วนของ Fibonacci ใกล้กันเพียงเท่านั้น หรือพูดง่ายๆว่าเป็น PATTERN สำรองนั้นเอง เราจึงเพิ่มส่วนนี้มาเพื่อให้มีความครอบคุมมากที่สุดในการตรวจจับในแต่ละโครงสร้าง

Chart Pattern

คือ รูปแบบที่ไม่มีจุด X,A,B,C,D ที่มีชื่อเรียกเฉพาะ ที่ทำงานอยู่ใน Indicator ของเราเช่นเดียวกัน

1. Double Tap
2. Triple Tap
3. Quadruple Tap
4. Head and Shoulders

และอื่นๆอีกมากมายที่เราจะเพิ่มในอนาคต

วิธีตั้งค่า Fibonacci

วิธีกำหนด Fibonacci เพื่อหาจุดซื้อขาย

กำหนด Fibonacci อย่างไรดี ?

การใช้ Fibonacci ในการหาจุดซื้อขาย เป็นสิ่งที่นักเทรดชอบใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่การที่จะใช้ Fibonacci ได้นั้นก็ต้องมีความรู้เรื่องแรวรับแนวต้านของราคาเป็นอย่างน้อย เพื่อหาจุดต่ำสุดและสูงสุดของช่วงเวลา ณ.ขณะหนึ่ง ในการวางเป้าหมายการ ซื้อ/ขาย แต่ในการตั้งค่า Fibonacci นี้จะเป็นการตั้งค่าให้ระบบทำงานร่วมกับการตรวจหา Harmonic Pattern เพื่อใช้ในการหาจุดซื้อและขายเมื่อเกิดโครงสร้างของ Harmonic ดังนั้น จากรูปด้านขวาคือการกำหนด จุดวาง Order 3 ระดับ เพื่อจะทำกำไร เรียกว่า Fibonacci Retracement โดยมีรายการให้เลือกในระบบของ HAP ดังนี้

0.236

0.382

0.500

0.618

**ดังนั้นการตั้งค่าควรจะต้องตั้งให้น้อยกว่า Fibonacci ในฝั่ง TP หลังจากกำหนดเสร็จแล้วระบบจะทำการตรวจหา Fibonacci ให้อัตโนมัติเมื่อระบบ Scan พบโครงสร้าง หากคุณต้องการเพิ่มตัวเลขสามารถแจ้งเราได้

การใช้ Fibonacci เพื่อหาจุด TP

คือหมายเลข Fibonaci เพื่อเพิ่มในการขยายของ Fibonacci ที่มีค่ามากกว่า Fibonacci Retracement ในการหาบริเวณจุด TP ซึ่งจะทำงานร่วมกันเมื่อตรวจพบโครงสร้าง ระบบก็จะคำนวณหาจุด TP ให้อัตโนมัติ 6 ระดับ ตามอัตราส่วนจาก Pattern ที่ตรวจพบ โดยมีรายการให้กำหนดดังนี้

0.786
1.000
1.272
1.414
1.618
2.618
3.618
4.618

โปรดทราบว่านี้คือค่ามาตรฐานของเราเท่านั้นเพื่อใช้ในการหาจุด TP อัตโนมัติ คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระ หากคุณต้องการเพิ่มตัวเลข Fibonacci สามารถแจ้งเราได้

การตั้งค่า HAP ที่เหมาะสม

ในหัวข้อนี้ จะอธิบายถึงวิธีการปรับความสมดุลของการตรวจจับ Pattern. จริงๆแล้วจุดสำคัญของการตรวจจับ Pattern คือการกำหนดเส้น Zigzag เพื่อให้ฟังก์ชั่นการวัด Fibonacci ของระบบทำงานในการวัดโครงสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จะตรวจจับ Pattern อย่างไรดี ?

โดยความเป็นจริงแล้วการที่จะได้มา 1 Pattern เป็นรูปแบบการมองหาการเคลื่อนตัวของราคาประกอบกับความกว้างของเวลานั้นหมายถึงจำนวณแท่งเทียนที่มากขึ้นที่วิ่งตามเส้น Zigzag ความหมายในที่นี้ ไม่ใช่การที่มี Zigzag 1 เส้น แต่เป็นราคาที่วิ่งตาม Zigzag 1 ลูกคลื่น แล้วมีการหักเส้นลงเป็นเส้นใหม่ แล้วการหักของเส้นนั้น จะต้องมีแท่งเทียนภายในก่อนหน้าอยู่พอสมควร จึงจะดีในการมองหาโครงสร้าง ทว่าหากเรามองแท่งเทียนหรือช่วงเวลาที่น้อย หรือ ไม่ได้มอง ภาพกว้างๆ ก็อาจทำให้ภาพที่เรามองโครงสร้างใดโครงสร้างหนึ่งผิดทางบ่อย ดังนั้นเราควรต้องมองหาการเคลื่อนตัวของแท่งเทียนที่กว้างขึ้น และต้องเป็นในรูปแบบ Zigzag ที่มีแท่งเทียนวิ่งตามเส้น Zigzag ดังรูปขวามือที่เป็นเส้นสีฟ้า และ ราคาควรจะวิ่งอยู่ใกล้เคียงกับเส้น Zigzag จึงจะถือว่าดี ในการมองหาระดับตรวจจับ ดังนั้นการปรับให้ Zigzag ให้มีการเคลื่อนตัวที่กว้างจะทำให้เมื่อตรวจพบ Pattern ก็จะมองภาพใหญ่ของโครงสร้างราคาได้ชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ควรให้ Zigzag วิ่งกว้างจนเกินไป

การปรับค่า Zigzag อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่าควรมีเส้น Zigzag ที่กว้าง ไม่ควรให้เส้น Zigzag แคบ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะกว้างจนเกินไป ดังนั้น 2 ช่องจากรูปด้านซ้ายสรุปได้ว่า

Zigzag Frequency คือ เป็นความลึกของจำนวณแท่งเทียนที่ตรวจพบ High และ Low หากเลือก Fast ระบบจะมอง High / Low ละเอียดขึ้น ถ้าเลือก Slow ก็จะตรงกันข้าม
Zigzag Length คือ ความกว้างของช่วงเวลายิ่งมีค่ามากจะทำให้ Zigzag กว้าง หรือ โครงสร้าง zigzag ใหญ่ขึ้นนั้นเอง
** ดังนั้นค่ามาตรฐานของเราคือ Zigzag Length = 3 คุณสามารถปรับได้ตามความต้องการเพราะบางคู่สกุล อาจทำให้เส้น Zigzag หาย ก็เพราะมีข้อมูลแท่งเทียนที่น้อย แต่ มีการตั้งค่า Zigzag ที่มีความกว้างเยอะ อย่างไรก็ตามควรจะต้องมองดูให้ราคามีการวิ่งแนบระดับเส้น Zigzag ให้ได้ใกล้เคียงที่สุด เพื่อลดความผิดพลาดของการตรวจจับ

วิธีหาจุดซื้อขายด้วย HAP

นี้เป็นวิธีการที่ง่ายในปัจจุบันที่คุณไม่ต้องจำอัตราส่วนระดับของ Fibonacci และรูปแบบ Pattern และการหาจุด Entry กับ TP ด้วย Fibonacci จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เมื่อคุณใช้ระบบในการ Scan หา Pattern เพื่อแสดงจุดซื้อขาย ผ่าน Fibo ที่ประมวลผลจาก Pattern ที่เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย

วิธีหาจุดซื้อด้วย HAP

1. จากรูปด้านขวาคุณจะสังเกตุได้ว่า จุดกลับตัวนั้นจะอยู่ช่วงบริเวณราคา 10923 ที่ราคามีโอกาสขึ้น นั้นคือแถวๆจุด D นั้นเอง
2. ในตอนนี้สถานะบ่งบอกแนวโน้มว่าราคาจะขึ้นในไม่ช้า ดังนั้นระบบก็จะแสดงเป้าหมายในการซื้อมาให้จากป้ายสีเขียว จะเห็นได้ว่าจุดซื้อในเป้าแรกนั้นอยู่สูงกว่าจุดกลับตัว ซึ่งจุดกลับตัวหรือราคา ณ.ขนะนี้อยู่เพียง 10923 ดังนั้นให้คุณสันนิษฐานไว้เลยว่าโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นนั้นค่อนข้างมีความเป็นไปได้ในระดับหนึ่ง คุณสามารถซื้อตอนนี้หรือรอซื้อที่เป้าหมายที่3ก็ได้นั้นคือ 10762
3. แต่ถ้าหากราคาของจุดกลับตัวอยู่สูงกว่า เป้าหมายซื้อ คุณไม่ต้อง Follow Buy ทันที ให้คุณรอเป้าหมายซื้อในเป้าแรกหรือเป้า2และ3เท่านั้น เพื่อความคุมความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นของการที่ราคาจะร่วงกลับลงมาที่จุด D หรือจุดของ Fibonacci ที่ระบบคำนวณเอาไว้ว่าบริเวณไหนควรซื้อ เพราะจะมีบางครั้งที่เป็นลักษณะนี้ แต่ถ้าคุณกล้าเสี่ยงก็สามารถพิจาราณาด้วยต้นทุนเข้าซื้อที่น้อยไม่มากจนเกินไป
4. การสังเกตุ % ของกำไร ข้อนี้สำคัญ หากคุณสังเกตุว่า จุดซื้ออยู่ในบริเวณจุดกลับตัว และยังพบว่า %กำไรที่มีการคำนวณไว้ล่วงหน้าในแต่ละเป้าหมายเมื่อขายมี %ของกำไรสูง นั้นหมายถึงความคุ้มค่าที่เราจะเข้าซื้อคู่สกุลเงินนี้ ที่มีโอกาสสูงของการทำกำไรในครั้งนี้
***โปรดทราบว่าการเกิดขึ้นของการตรวจพบ Pattern นั้นเกิดจากการตั้งค่าระบบ Zigzag ที่งานอยู่ภายในระบบของการวัดหาจุด Fibonacci ทั้งนี้ทั้งนั้น การหาจุดซื้อขายนั้นมีหลายวิธีตามระบบของแต่ละแบบ แต่นี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายของการหาจุดซื้อขายด้วยการมองหา Pattern ด้วยสิ่งนี้มันจะช่วยให้คุณหาโครงสร้างที่เรียกว่า Harmonic Pattern ได้ง่ายขึ้น ผ่านระบบจัดการ Scan หา Pattern ของเรา และวัดจุด Entry และ TP ให้อัตโนมัติเมื่อเกิดโครงสร้าง

วิธีหาจุดขายด้วย HAP จากรูปด้านซ้ายราคาได้วิ่งขึ้นมาถึงเป้าหมายในจุด TP ที่ระบบคำนวณไว้แล้ว แต่คุณอาจไม่จำเป็นต้องขายในเป้าหมายแรกหมดทีเดียว คุณอาจพิจารณาด้วยการแบ่งส่วนในการถยอยขายออกในแต่ละ TP เพื่อให้สามารถขายออกได้ในราคาที่ดีขึ้น แต่หากคุณต้องการจะปิด Order ที่ถืออยู่ทั้งหมดในเป้าแรกเท่านั้นก็สามารถพิจารณาได้ตามความต้องการ

%Profit ที่แสดงด้านล่างคืออะไร ? มันก็คือระบบที่คำนวณไว้ล่วงหน้า โดยจะคิดเป็นอัตราร้อยละว่า ถ้าเอาจุด Entry แรก ไปขายที่ TP1 จะได้กี่ % จากในรูปขวามือใน Profit แถวแรก จะแบ่งเป็น3ส่วนคือการนำ Entryที่ 1 และ 2 และ 3 ไปขายใน TP แรก ความหมายคือ หากสมมุติคุณซื้อที่ Entry 2 แล้วมาขายใน TP 1 คุณจะได้กำไร 10% หรือ หากคุณซื้อที่ Entry 3 แล้วไปขายใน TP ที่ 1 คุณจะได้กำไร 14% หรือคุณซื้อใน Entry ที่2 แล้วไปขายใน TP ที่6 คุณจะได้กำไร 77% นั้นเอง สิ่งนี้ระบบจะคำนวณไว้ให้คุณล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการตัดสินใจของคุณ โดยที่(E1,E2,E3 หมายถึงจุดวาง Order เพื่อหวังทำกำไร)

วิธีดูโครงสร้าง Harmonic

การมองหาจุดกลับตัวนั้นเป็นพื้นฐานที่หลายๆคนก็พอรู้กันดีอยู่แล้วว่า คุณสามารถมองหาได้จุดกลับตัวได้เมื่อเกิดจุด D โดยจะประกอบไปด้วยกัน 2 ประเภทคือ X,A,B,C,D และ A,B,C,D ซึ่งทุกครั้งเมื่อเกิด 1 โครงสร้าง จะจบด้วยจุด D เสมอ

วิธีสังเกตุจุดกลับตัว

การที่พบ 1 Pattern นั้นจะมีการวัดจุดอยู่2ประเภทคือ 4จุด กับ 5จุด นั้นคือจุด A,B,C,D และ X,A,B,C,D แต่เมื่อเมื่อคุณพบจุด D แล้วระบบแจ้งให้ BUY แสดงว่าโครงสร้างดังกล่าวที่ระบบวาดให้มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นคือ ราคาอาจมีการปรับตัวขึ้นไปในอีกไม่ช้า จากการสังเกตุคุณจะพบว่าตลาดขาขึ้น จุด D จะอยู่ต่ำกว่าจุด C เสมอ ตรงกันข้ามถ้าหากจุด D อยู่สูงกว่าจุด C นั้นหมายถึงราคาจะปรับตัวลงในไม่ช้านี้เป็นพื้นฐานมากสำหรับการมองรูปแบบ Harmonic คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง เราเพียงอธิบายถึงขอบเขตของโครงสร้างเท่านั้น

Pattern เริ่มผิดทาง ทำยังไงดี ?

กำลังอัพเดตเร็วๆนี้....

วิธีหาจุดSL ด้วย HAP

กำลังอัพเดตเร็วๆนี้....

วิธีเข้าถึง Indicator HAP

กำลังอัพเดตเร็วๆนี้....

วิธีสมัครเว็บ Tradingview

กำลังอัพเดตเร็วๆนี้....

แนวคิดของระบบ

กำลังอัพเดตเร็วๆนี้....

วิธีอัพเดต Indicator

กำลังอัพเดตเร็วๆนี้....

วิธีตั้งการแจ้งเตือน

หากคุณต้องการกำหนดการแจ้งเตือน เมื่อระบบ HAP พบ Pattern คุณสามารถกำหนดการแจ้งเตือนได้ด้วยวิธีด้านล่าง
***โปรดทราบว่าคุณสมบัตินี้ไม่สามารถใช้ได้กับแผนราคา HAP1 แต่สามารถใช้ได้กับแผนราคาที่สูงกว่า HAP1 ดังนั้นหากคุณใช้บริการ HAP1 กับเรา จะไม่สามารถตั้งการแจ้งเตือนนี้ได้

ขั้นตอน

1. คลิกปุ่ม Alert ที่ด้านบนดังลูกศรที่ 1

2. ในช่องสี่เหลี่ยมสีแดงคลิกเลือก 🔔HAP Harmonic

3. ต่อไปจะเป็นการกำหนดรูปแบบการแจ้งเตือน คุณสามารถเลือกในช่องสี่เหลี่ยมสีส้มหรือสีม่วงก็ได้ สีม่วงคือหากพบ Pattern ระบบจะยังไม่แจ้ง แต่ระบบจะรอให้แท่งเทียนขึ้นแท่งใหม่ก่อนแล้วค่อยแจ้งของ Timeframe นั้นๆ ส่วนสีส้ม คือ การแจ้งเตือนทันทีเมื่อพบ Pattern โดยจะแจ้งเพียง 1 ครั้ง ต่อ 1 แท่งเทียนเมื่อตรวจพบ ซึ่งในที่นี้เราแนะนำให้เลือกช่องสีส้ม คือ 'Once Per Bar'

4. ในช่องสีขาว คือการกำหนดข้อความเมื่อพบ Pattern ในส่วนนี้คุณไม่จำเป็นต้องใส่อะไรเพิ่ม เพราะเรากำหนดมาให้เรียบร้อยแล้ว คุณสามารถแก้ไขข้อความที่ไม่ได้อยู่ภายในเครื่องหมายนี้ได้ {{..}} ส่วนข้อความที่อยู่ภายใน {{..}} คือฟังก์ชั่นที่เรียกใช้ภายในระบบ หากคุณมีข้อความที่ต้องการกำหนดเองเพิ่มเติม สามารถขึ้นบรรทัดใหม่แล้วใส่ได้

5. กดปุ่ม Create ขวามือล่างเพื่อสร้างการแจ้งเตือน หากต้องการให้ระบบแจ้งเตือนไปทางอีเมล์อย่าลืมติ๊กช่อง Email ด้วย เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จกระบวนการ

โปรดทราบว่า ในขั้นตอนที่ 3 หากคุณเลือกช่องสีส้มการแจ้งเตือนอาจมีการแจ้งบ่อยขึ้น หรือสัญญาณรบกวน(Noise) แต่คุณจะไม่พลาดในความล่าช้าของสัญญาณที่เกิดขึ้น ส่วน ช่องสีม่วงเป็นช่องที่ เมื่อพบสัญญาณ จะไม่แจ้งเตือนก่อน แต่จะรอจนราคาขึ้นแท่งใหม่ เมื่อขึ้นแท่งใหม่ตัวระบบ TV จะเช็คว่าข้อมูลหรือความแน่นอนของสัญญาณยังอยู่ในโครงสร้างเดิมหรือเปล่าหากยังอยู่ มันก็จะแจ้งเตือนให้เรา แต่ต้องแลกด้วยความล่าช้าของสัญญาณ

ข้อดีของการเลือก ช่องสีส้มคือ คุณจะไม่พลาดเมื่อระบบพบ Pattern แต่ต้องแลกด้วย สัญญาณรบกวนบ่อย (Noise)

ข้อดีของการเลือก ช่องสีม่วงคือ Pattern ที่ระบบแจ้งสัญญาณมาจะค่อนข้างมีความแน่นอนกว่า ว่าโครงสร้างที่เกิดจะเป็นจริง แต่ต้องแลกด้วยความล่าช้าของสัญญาณ

*** การตั้งแจ้งเตือนคุณสามารถเลือกระดับของ Timeframe ได้ เพราะแต่ละ Timeframe จะพบ Pattern ที่แตกต่างกัน ของรูปแบบการเคลื่อนตัว Zigzag

วิธีปรับแต่งหน้าตา Indicator

คุณสามารถปรับแต่งหน้าตาการแสดงผลของ Indicator ได้อย่างอิสระตามความต้องการของคุณ เช่น สี,ขนาด,รูปแบบ

ส่วนที่ 1 คือการเข้าถึงหน้าตั้งค่า เพื่อกำหนดคุณลักษณะตามที่ต้องการ โดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่าดังรูปตัวอย่าง

ส่วนที่ 2 เพื่อบ่งบอกตัวตนของคุณ คุณสามารถกำหนดอักขระที่จะให้แสดงอยู่ใต้ล่างสุดของป้าย Scan Pattern ได้

ส่วนที่ 3 หากคุณมีสีสันที่ชื่นชอบ คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระ จากนั้นคอยสังเกตุการเปลี่ยนแปลง

ส่วนที่ 4 นอกจากนี้ เพื่อความยืดหยุ่น คุณยังสามารถใส่ Emoji เพื่อบ่งบอกสถานะ Buy หรือ Sell และ Emoji เป้าหมายซื้อและขาย ได้อีกด้วย พร้อมทั้งปรับขนาดของป้ายสัญญาณ และขนาดเส้นได้ตามความต้องการของคุณ

ส่วนที่ 5 นี้เป็นการเปิดใช้งาน ในการตรวจจับ Harmonic Pattern หากคุณไม่ต้องการสามารถนำเครื่องหมายออกได้ โปรดทราบว่าเมื่อนำออกแล้วระบบจะไม่สามารถตรวจจับ Pattern นั้นได้ นอกจากคุณจะกลับมาเปิดใช้งานมันอีกครั้ง